Future Backward

มาร่วมงาน Solve at MIT 2022 ได้เจอ Noubar Afeyan ผู้ร่วมก่อตั้งและ Chairman ของ Moderna มาพูดแชร์เรื่องปัจจัยที่ทำใ้หเกิดนวัตกรรม

Afeyan เล่าให้ฟังว่าการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ทางเทคโนโลยี (breakthrough technology) เกือบทั้งหมด ไม่สามารถใช้แค่การพัฒนาทางเทคโนโลยีที่สะสมกันต่อๆ มาได้ การต่อยอดความรู้ และทักษะในการสร้างความรู้ใหม่ๆ ผ่านการวิจัยนั้นก็ยังสำคัญอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เกิด breakthrough ได้คือ จินตนาการ

Afeyan บอกว่าปกตินวัตกรรมจะเกิดได้ 3 แบบคือ

1. Niche innovation - นวัตกรรมที่เกิดขึ้นในแวดวงความรู้ หรือ domain ที่คนคิดอยู่
2. Adjacency innovation - นวัตกรรมที่เกิดจากการสำรวจสิ่งที่อยู่ข้างๆ แวดวงความรู้
3. Far-out innovation - นวัตกรรมที่ที่เกิดจากจินตนาการไปยังอนาคตที่ไกลว่าความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

การจะ breakthroght จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการ จินตนาการ ไปยังอนาคตที่ far-out ลองนึกถึง Moderna ที่จินตนาการถึงการจะ ทำอย่างไรให้ร่างกายสามารถผลิต Antibody เพื่อฆ่าเชื้อโรคเองได้ ซึ่งฟังแล้วก็เหมือนนิยายวิทยาศาสตร์หรือ science fiction มากกว่า

แต่จินตการที่ดีก็มีวิธีฝึก ด้วยการให้เวลาตัวเองวันละ 5 นาที ลองจินตนาการเรื่องที่ดูเหมือนจะงี่เง่าในปัจจุบัน แล้วต่อให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะ แต่เรายังรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะปกป้องจินตนาการนั้น ถ้าเกิด moment แบบนั้นได้ จินตนาการนั้นก็น่าจะเป็นจินตนาการที่ดี

เมื่อเรามีจินตนาการที่เราอยากปกป้องแล้ว สิ่งสำคัญคือ การคิดถึง steps ถอยหลังอนาคตมายังปัจจุบันว่าเราต้องทำอะไรบ้าง Afeyan เรียกว่าวิธีการนี้ว่า Future Backward เพื่อทำเป็นแนวทางให้เราสามารถทำให้จินตนาการนั้นเป็นจริงด้วย

Afeyan ยังเล่าให้ฟังต่อว่าในฐานะผู้นำองค์กร การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกสบายใจที่จะจินตนาการสิ่งที่ไร้สาระ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร

ดังนั้น เรามาปกป้องจินตนาการอันงี่เง่าของเรากันเถอะ